ในครั้งหนึ่งนั้นพระยาสุริยอภัยพระเจ้าหลานเธอ
ได้ให้ตำรวจคุมตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามกับขุนนางมีชื่อซึ่งเป็นสมัครพรรคพวกสามสิบเก้าคนเข้ามาถวายชำระความเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก
ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ขุนนาง ๓๙ คนนั้นถูกสำเร็จโทษให้ประหารชีวิตเสีย
แต่ตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามนั้นให้เอาไว้ก่อน
แล้วให้พิจารณาชำระเอาพวกเพื่อนที่สมรู้ร่วมคิดอีก ให้การซัดทอดถึงพระยาสวรรค์
“…ครั้น ณ วันอาทิตย์ เดือน ๕ แรม ๑๐ ค่ำ
จึงพระยาสุริยอภัย พระเจ้าหลานเธอ ให้ตำรวจคุมตัวกรมขุนอนุรักษ์สงครามกับขุนนางมีซื่อซึ่งเป็นสมัครพรรคพวกสามสิบเก้าคน
มีอ้ายพระยาเพ็ชรชัย พระยามหาอำมาตย์ พระยากลางเมือง พระมหาเทพ หลวงราชวรินทร์
หลวงคชศักดิ์ เป็นต้น
มาถวายหน้าพระที่นั่งแล้วกราบทูลว่าคนเหล่านี้เข้าพวกกับพวกกรมขุนอนุรักษ์สงครามยกมารบ
จึงดำรัสให้เข้าขุนนางสามสิบเก้าคนนั้นไปประหารชีวิตเสีย
และตัวกรมอนุรักษ์สงครามนั้นให้เอาไว้ก่อน แล้วให้พิจารณาชำระเอาพวกเพื่อนอีก
ให้การซัดถึงพระยาสรรค์และหลวงเทพผู้น้องกับเจ้าพระยามหาเสนา
พระยารามัญวงศ์จักรีมอญ พระพิซิตณรงค์
หลวงพัศดีกลางและคนเหล่านี้คิดกันให้ไปรบพระเจ้าหลานเธอ
สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว
จึงมีพระราชดำรัสให้ตัวกรมขุนอนุรักษ์สงคราม พระยาสรรค์ หลวงเทพผู้น้องและนางทั้งสี่ซึ่งคิดกันนั้น
ไปประหารชีวิตเสียพอกองทัพพระยาธรรมา มาถึงคุมเอาตัวกรมขุนรามภูเบศร์เข้ามาถวาย
จึงดำรัสให้เอาไปประหารชีวิตเสียด้วยกันในวันนั้นกับทั้งพวกญาติวงศ์ซึ่งเจ้าตากสินบรรดาที่เป็นชายนั้น
ยังเหลือแต่ราชบุตร บุตรีน้อยๆ
มีเจ้าฟ้าสุพันธวงศ์อันเป็นพระราชนัดดาของพระองค์เป็นต้น
และเจ้าฮั้นซึ่งเป็นน้าของเจ้าตากสินและเจ้าส่อนหอกลางซึ่งเป็นกรมหลวงบาทบริจา
อัครมเหสีกับญาติซึ่งเป็นผู้หญิงนั้นให้จำเอาไว้ทั้งสิ้น….
ฝ่ายสมเด็จพระอนุชาธิราช
กรมพระราชวังฯเสร็จมาเฝ้าให้ตำรวจไปจับข้าราชการทั้งปวง
บรรดาที่มีความคิดขัดเคืองกับพระองค์ท่านมาแต่ก่อนให้ประหารชีวิตเสียสิ้นทั้งแปดสิบคนเศษ
ทั้งกราบทูลว่า “บรรดาบุตรชาน้อยๆของพระเจ้าตากสินจะขอรับพระราชทานเอาใส่เรือไปล่มน้ำทิ้งเสียสิ้น
“สมเด็จพระอนุชาธิราช
เสด็จเดินทัพมาถึงพระนครขึ้นมาเฝ้าสมเด็จพระเชษฐาธิราช ณ ท้องพระโรง
ดำรัสปรึกษาราชการแผ่นดินด้วยกันและเสด็จออกจากเฝ้าให้ตำรวจไปจับข้าราชการทั้งปวง
บรรดาที่มีความคิดข้อขัดเคืองกับพระองค์ท่าน
มาแต่ก่อนให้ประหารชีวิตเสียสิ้นทั้งแปดสิบคนเศษ
แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรมพระราชวังฯเสด็จลงมาเฝ้ากราบทูลว่าบรรดาบุตรชายน้อยๆของพระเจ้าตากสินจะขอรับพระราชทานเอาใส่เรือไปล่มน้ำทิ้งเสียสิ้น
คำโบราณกล่าวไว้ว่า ตัดหวายอย่าไว้หนามหน่อ
ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูกซึ้งจะเลี้ยงไว้นั้นหาได้ประโยชน์ไม่ จะเป็นเสี้ยนหนามไปภายหน้า
สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระอาลัย อยู่ในเจ้าฟ้าสุพันธวงศ์พระราชนัดดา
จึงดำรัสแก่สมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าขอชีวิตไว้ด้วยกัน แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้ปล่อย
หม่อมฮั้น หม่อมส่อน หอกลางออกจากเวณจำให้พ้นโทษ….
เกริกฤทธิ์ เชื้อมงคล ,แรกสร้างพระนคร,2552,สำนักพิมพ์บางกอกบุ๊ค